กับดัก หุ้น IPO

          ปี 2555 เป็นปีทองของ หุ้น IPO จริงๆ ผมว่านะ เพราะหุ้น IPO ร้อนแรงมากๆ ตั้งแต่ต้นปีมาบริษัทดังๆ ก็ขยันกันเข็นหุ้นตัวเองเข้าตลาดหลักทรัพย์และจะต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า ไม่ว่าจะเป็น AAV HOTPOT VGI WHA SRICHA ยกตัวอย่าง จนล่าสุดสดๆ ร้อน ที่เข้า IPO เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมาคือ TMILL เรียกว่าให้ผลตอบแทนเกินคาดจริงๆ แต่ในความร้อนแรง หรือผลตอบแทนที่ได้รับเพียงในวันที่ IPO มากมายขนาดนี้ ก็แฝงไปด้วยข้อคิด หรือข้อควรระวังสำหรับหุ้นที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ๆ หรือหุ้น IPO ที่นักลงทุนหน้าใหม่ ควรจะระวังไว้ หรือผมเรียกมันว่า กับดัก หุ้น IPO

          ถามว่าหุ้น IPO คืออะไร ผมขอเล่ารายละเอี่ยดคร่าวๆ นะครับ หุ้น IPO ก็คือหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใหม่กับตลาดหลักทรัพย์ เพื่อขอนำหุ้นของบริษัทส่วนหนึ่ง เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง ถามว่าทำไมต้องนำหุ้นของบริษัทตัวเองไปให้ผู้อื่นถือ บริษัทต่างๆ ที่นำเข้าในตลาดหลักทรัพย์ พูดง่ายๆ คือ บริษัทเหล่านี้ต้องการเงินจากคุณนั่นเอง หรือการเพิ่มทุนให้กับบริษัทตัวเอง เพื่อที่จะนำเงินที่ได้นี้ไปลงทุนต่อ เพื่อเพิ่มทรัพย์สิน รายได้ และกำไรให้กับบริษัทนั้นๆ หุ้นเหล่านี้จะมีการเปิดให้จองกันก่อนครับ คือเป็นการจองหุ้น หรือได้หุ้นก่อนชาวบ้าน คนแรกที่จะได้ก่อนคือเหล่าบรรดาผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ครับ ส่วนนักลงทุนทั่วไปสามารถจองหุ้นได้จากโบรกเกอร์ที่คุณใช้บริการ แต่ไม่ได้ทุกโบรกเกอร์นะครับ ขึ้นอยู่กับว่าหุ้นนั้นๆ ใช้บริการของโบรกเกอร์ใดในการทำ IPO ให้ หรือบางโบรกเกอร์ที่สามารถขอหุ้น IPO เหล่านั้นให้กับผู้เปิดบัญชีให้กับตัวเองได้ ไม่ได้กันทุกคนครับ

          สาเหตุที่หุ้น IPO ร้อนแรงมากในช่วงนี้อย่างหนึ่งคือ มีหุ้น IPO เข้าใหม่ค่อนข้างเยอะพอสมควร เพราะช่วงเวลาตลาดขนาดนี้ SET ขึ้นไปแตะ 1,300 จุดมาแล้ว ถือว่าอยู่ในช่วงตลาดกระทิงพอสมควร หุ้น IPO ก็เลือกเข้าช่วงนี้เพราะตลาดกำลังแรง เราจะสังเกตเห็นได้ว่าหุ้น IPO หลายๆ ตัวที่เข้ามาในช่วงนี้ ณ ราคาวันเปิดขายวันแรก ก็วิ่งกันกระจายจากราคาจอง เกินเท่าตัวก็มีครับ ลองดูผลตอบแทนจากการเข้าซื้อขายวันแรก ของหุ้น IPO ปี 2555 นี้จากตารางข้างล่างครับ

ข้อมูลจาก www.set.or.th

          ย้ำนะครับว่านี่เป็นผลการตอบแทนจากราคาจอง ไม่ใช่จากราคาเปิดวันแรก ดังนั้นคนที่มีหุ้นราคาจองเท่านั้นที่จะได้ผลตอบแทนอันคุ้มค่านี้ไป แต่สำหรับคนที่เพิ่งเข้าเมื่อวันเปิดวันแรกของหุ้น IPO เหล่านี้ ไม่ใช่ทุกคนครับที่จะทำกำไรได้จากหุ้น IPO นั้นๆ ในเวลาที่ร้อนแรงแบบนี้ เพราะนักลงทุนเหล่านั้น เจอกับดักของหุ้น IPO เข้าให้แล้ว
          มีนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่หลายคนให้คำจำกัดความ หรือแปลคำว่า IPO ว่า "It's Probably Over-priced!" หรือแปลว่า "ราคามันเกินจริงไป!!" ก็แน่นอนครับ เราจะเห็นได้ว่าราคามันเว่อร์เกินไปจริงๆ จากราคาจอง เหตุเพราะว่าหุ้นเหล่านี้ยังไม่มีข้อมูลพื้นฐาน ข้อมูลการประกอบการ ดำเนินงาน หรือผลกำไร ที่ชัดเจนในตลาดหลักทรัพย์นั่นเอง หรือเรายังไม่สามารถรู้จักบริษัทนั้นๆ ได้อย่างท่องแท้นั่นเอง นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เป็นนักลงทุนที่เน้นพื้นฐาน เขาก็จะดูผลประกอบการ กำไร ฯลฯ ของบริษัทนั้น ซึ่งมันต้องดูกันหลายปีต่อเนื่องกันมา แต่กับหุ้น IPO มันยังไม่มีข้อมูลนานขนาดนั้น ฉนั้นนักลงทุนเหล่านี้ก็จะรอดูผลประกอบการ หรือรอช่วงเวลาที่เหมาะสมก่อนที่จะไปลงทุนในหุ้นนั้นๆ ครับ
          แต่กลับกันนี่เป็นโอกาสการทำกำไรของนักลงทุนที่ลงทุนแบบเก็งกำไรครับ ต้องเน้นว่าเซียนจริงๆ หรือเป็นเจ้ามือถือเงินหน้านั่นเอง หุ้น IPO เป็นหุ้นที่หอมหวานสำหรับนักลงทุนเหล่านี้ เพราะในช่วงแรกๆ ของหุ้น IPO จะมีนักเก็งกำไรเข้าไปเก็งกำไรมากมาย จะสังเกตเห็นได้ว่ามีการลากราคากันไปในช่วงแรก เพื่อเรียกแขก หรือนักลงทุนหน้าใหม่เข้าไปในช่วงทำราคาสูงๆ นักลงทุนหน้าใหม่ก็จะเห็นว่า เห่ย ราคามันวิ่งกระฉูดเลย อยากเข้าไปซักหน่อยเพื่อจะได้กำไร ได้ค่าขนมกับเขาบ้าง แต่หารู้ไม่ว่านั่นแหละกับดักครับ

ข้อมูลจาก www.set.or.th

          นี่คือตัวอย่าง TMILL ที่เข้า IPO ล่าสุด จะเห็นว่าจากราคาเปิด 6 บาท วิ่งไปถึง 7 บาทคิดเป็นกำไรจากราคาจองที่ 3.1 บาทเกินกว่า 120% ในช่วงเวลาแค่ 20 นาที ผมขอเรียกช่วงนี้ว่า ช่วงตะลุมบอล นักลงทุนมากมายแห่เก็งกำไรกัน สำหรับคนที่เพิ่งเข้าในวันนี้ ก็รีบเข้าไปซื้อเพื่อหวังว่าราคามันจะวิ่งไปอีก บางคนไปเข้าที่สูงสุดเลยครับ 7 บาทกว่า ดอยทันทีภายใน 20 นาทีราคาก็รูดลงเรื่อยๆ แน่นอนเซียนเก็งกำไรเขาผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ และรู้ว่าช่วงไหนต้องทำกำไร ช่วงไหนราคาสูงเกินไปแล้ว หรือเขารู้จังหวะขายนั่นเอง แล้วนักลงทุนรายย่อย สมัครเล่นทั้งหลายก็ตกเป็นเหยื่อครับ คิดว่าเดี๋ยวมันก็ขึ้น เดี๋ยวเจ้าก็กลับมาลากใหม่ เข้าไปซื้อถัวเมื่อราคาลงมาบ้าง สุดท้ายไปปิดที่ 5.5 บาท ลดลงจากราคาสูงสุดเกือบ 50%

          บางคนยังคิดปลอบใจตัวเองว่า จะเป็นนักลงทุนระยะยาว ไม่ยอมตัดขาดทุน หุ้นพื้นฐานดี เดี๋ยวราคาก็ขึ้นไปอีก ถือไว้นานหน่อย คุณแน่ใจแล้วหรอครับ? จริงอยู่ที่อาจจะเป็นไปตามนั้น แต่ก็อาจจะไม่ เพราะอย่างที่บอก หุ้น IPO ไม่มีพื้นฐานให้ดูอย่างเพียงพอ ดังนั้นเราไม่สามารถวิเคราะห์หรือคาดการณ์ได้มากขนาดนั้นครับ

          หนาวซิครับ...ผมแนะนำสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ควรจะหลีกเลี่ยงหุ้นที่เราไม่รู้จักพื้นฐาน หุ้นปั่น หรือหุ้น IPO แบบนี้ เพราะเราไม่มีหลักใดๆ ให้ยึดในการเข้าลงทุนได้เลย นอกจากนักลงทุนที่เป็นเซียนแท้ๆ หรือพวกเจ้ามือเท่านั้น ที่เขาได้กำลังจากหุ้นเหล่านี้ครับ เมื่อมีคนได้กำไร ก็ต้องมีคนที่ขาดทุนจ่ายเงินให้กับเขาเหล่านั้น

          จึงมีคนนำคำกล่าวประโยคหนึ่งมาใช้กับหุ้นพวกนี้... "ลุกทีหลัง จ่ายรอบโต๊ะ"...