แต่ช้าก่อน!! ที่ผมเปรียบเทียบให้ดูนั่น ขำๆ นะครับเพื่อนๆ ไม่ได้ให้เอาไปคิดเป็นจริงเป็นจังแต่อย่างใด แต่มันก็ทำให้มองเห็นภาพคร่าวๆ ได้ว่า หวย กับ หุ้น มันต่างกันนะ บางคนบอกเล่นหุ้นมันก็เสี่ยงพอๆ กันนั่นแหละ ผมบอกเลยว่า ไม่จริง ครับ ถ้าหากคุณศึกษาและใส่ใจในการลงทุนอย่างจริงจังและถ่องแท้ มองเห็นภาพอย่างชัดเจน การจะทำอะไรซักอย่าง หากเราศึกษาอย่างดี และมีความตั้งใจจริงแล้ว มันย่อมสำเร็จผลที่ดีอย่างแน่นอน ที่ผมจะบอกเป็นนัยๆ คือ อยากจะอธิบายความหมายของสำนวณ "คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น" ว่าที่จริงแล้วที่เขากล่าวเช่นนี้เพราะว่า หวยมันไม่ได้ทำให้คนรวย หรือการพนันมันไม่ได้ทำให้คนรวยนั่นเอง เปรียบกับคนที่เล่นหวย ก็รู้ว่ามันมีโอกาสถูกน้อยมาก แต่ก็พยายามจะซื้อมันทุกเดือนถูกบ้างไม่ถูกบ้าง เวลาถูกก็บอกว่าเลขเด็ดจริง เพราะโดนกินก็ว่าโชคไม่ดี พลาดไปนิดเดวเอ๊งง!! แล้วก็ซื้อมันอย่างนั้นแหละ ทั้งที่ความจริงหากเอาเงินที่ไปซื้อหวยมาคิดจริงๆ แล้ว เงินที่โดนกินไปน่ะ มากกว่าเงินที่ได้เมื่อถูกหวยอีกครับ ผมล่ะเสียดายแทนจริงๆ จากนั้นลองมาดูคำที่ว่าคนรวยเล่นหุ้นบ้าง มันหมายถึงคนจะรวยต้องหมั่นศึกษา ทำงาน และตั้งใจจริงในสิ่งที่ทำ ไม่ใช่เข้าๆ ออกๆ พึ่งโชคลาภหรือรวยทางลัด เปรียบเสมือนกับการเล่นหุ้นหรือการทำงานใดๆ คนที่เล่นหุ้นแล้วเขารวยจริงๆ นั้น เขาไม่ใช่แค่มานั่งนึกว่าวันนี้จะซื้อหุ้นตัวไหน ซื้อ แล้วมานั่งลุ้นว่ามันจะขึ้นหรือจะลงหน๊ออ ไม่ใช่แบบนั้นครับ เขาเหล่านี้ต้องศึกษาอย่างจริงจังหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ ภาพรวมตลาด การบ้านการเมือง พื้นฐานบริษัทต่างๆ ตลอดจนสัญญาณเทคนิคของหุ้น และอื่นๆ อีกมากมาย ก่อนที่เขาจะนำเงินไปลงทุนจริงๆ นี่แหละครับความแตกต่างของ คนจน กับ คนรวย
ตลาดหุ้นของไทยเราดัชนีมันจะขึ้นหรือลงนั้น มีอิทธิพลจากไม่กี่สิ่งครับ และที่สำคัญก็คือการลงทุนของนักลงทุนต่างชาตินั่นเอง จะเห็นในหลายๆ ครั้งว่าหากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นเราวันใดมากๆ ก็จะมีผลให้ดัชนีนั้นขึ้นหรือลงได้ เพราะอะไรหรอครับ ก็เพราะผู้ถือหุ้นในหุ้นต่างๆ ในปริมาณสูงๆ ในบ้านเราส่วนใหญ่ก็คือนักลงทุนต่างชาตินั่นเอง (ผมไม่ได้เหมารวมหุ้นทุกตัวนะครับ) แต่กลับกันที่หากวันใดที่มีนักลงทุนในประเทศนั้นซื้อขายกันเองที่ไม่รวมนักลงทุนต่างชาตินะครับ ดัชนีมันจะไม่ค่อยขยับซักเท่าไร ก็เพราะปริมาณผู้ลงทุนในประเทศเรานั้นมันน้อยมากๆ เขามีการสำรวจออกมาแล้วว่าคนไทยที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นจริงๆ ในบ้านเรานั้นมีเพียงประมาณ 1-2 แสนบัญชี แล้วหักผู้ที่มีบัญชีของตัวเองเกินกว่า 1 บัญชีอีก โอ่จะเหลือเท่าไร เทียบกับประชากรทั้งประเทศกว่า 60 ล้านคนแล้ว มันน้อยมากๆ ครับ ผมจึงอยากเห็นคนไทยหันมาให้สนใจกับการลงทุนในหุ้นหรืออื่นๆ ในประเทศตัวเองมากขึ้น นอกจากจะช่วยให้บริษัทต่างๆ นั้นมีเงินทุนมากมายหลั่งไหลเข้ามาแล้ว ยังช่วยพัฒนาให้คนในประเทศมีความรู้และมีฐานะที่ดีขึ้นด้วยครับ
แต่ผมเน้นย้ำว่าการจะลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อนๆ ต้องเข้าใจและศึกษามันอย่างจริงจัง หมั่นศึกษาหาความรู้ต่างๆ จากหนังสือ หนังสือพิมพ์ ข่าวสาร และอื่นๆ อีกมาก (ซึ่งผมจะแนะนำในบทความครั้งต่อไป) ที่จะทำให้ตัวเองนั้นมั่นใจในการลงทุนอย่างแท้จริง ไม่ใช่จะเข้ามาพรวดๆ พราดๆ เห็นตลาดหุ้นเขาบูมกัน ดัชนีขึ้นเอาๆ เศรษฐกิจดีเยี่ยม บริษัทต่างๆ มีผลประกอบการที่ดี ก็เลยตามเขาเข้ามา แล้วก็มาลงทุนอย่างไร้ประสบการณ์และความรู้ แบบนี้มีแต่เจ๊งกับเจ๊งครับ
ตลาดหุ้นของไทยเราดัชนีมันจะขึ้นหรือลงนั้น มีอิทธิพลจากไม่กี่สิ่งครับ และที่สำคัญก็คือการลงทุนของนักลงทุนต่างชาตินั่นเอง จะเห็นในหลายๆ ครั้งว่าหากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นเราวันใดมากๆ ก็จะมีผลให้ดัชนีนั้นขึ้นหรือลงได้ เพราะอะไรหรอครับ ก็เพราะผู้ถือหุ้นในหุ้นต่างๆ ในปริมาณสูงๆ ในบ้านเราส่วนใหญ่ก็คือนักลงทุนต่างชาตินั่นเอง (ผมไม่ได้เหมารวมหุ้นทุกตัวนะครับ) แต่กลับกันที่หากวันใดที่มีนักลงทุนในประเทศนั้นซื้อขายกันเองที่ไม่รวมนักลงทุนต่างชาตินะครับ ดัชนีมันจะไม่ค่อยขยับซักเท่าไร ก็เพราะปริมาณผู้ลงทุนในประเทศเรานั้นมันน้อยมากๆ เขามีการสำรวจออกมาแล้วว่าคนไทยที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นจริงๆ ในบ้านเรานั้นมีเพียงประมาณ 1-2 แสนบัญชี แล้วหักผู้ที่มีบัญชีของตัวเองเกินกว่า 1 บัญชีอีก โอ่จะเหลือเท่าไร เทียบกับประชากรทั้งประเทศกว่า 60 ล้านคนแล้ว มันน้อยมากๆ ครับ ผมจึงอยากเห็นคนไทยหันมาให้สนใจกับการลงทุนในหุ้นหรืออื่นๆ ในประเทศตัวเองมากขึ้น นอกจากจะช่วยให้บริษัทต่างๆ นั้นมีเงินทุนมากมายหลั่งไหลเข้ามาแล้ว ยังช่วยพัฒนาให้คนในประเทศมีความรู้และมีฐานะที่ดีขึ้นด้วยครับ
แต่ผมเน้นย้ำว่าการจะลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อนๆ ต้องเข้าใจและศึกษามันอย่างจริงจัง หมั่นศึกษาหาความรู้ต่างๆ จากหนังสือ หนังสือพิมพ์ ข่าวสาร และอื่นๆ อีกมาก (ซึ่งผมจะแนะนำในบทความครั้งต่อไป) ที่จะทำให้ตัวเองนั้นมั่นใจในการลงทุนอย่างแท้จริง ไม่ใช่จะเข้ามาพรวดๆ พราดๆ เห็นตลาดหุ้นเขาบูมกัน ดัชนีขึ้นเอาๆ เศรษฐกิจดีเยี่ยม บริษัทต่างๆ มีผลประกอบการที่ดี ก็เลยตามเขาเข้ามา แล้วก็มาลงทุนอย่างไร้ประสบการณ์และความรู้ แบบนี้มีแต่เจ๊งกับเจ๊งครับ
"นั่นคือหากคุณเล่นหุ้นอย่างไม่มีความรู้แล้ว ก็เหมือนกับการเล่นหวยดีๆ นี่เอง"

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น